เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. ขัตติยกัญญาวรรค] 2. จตุราสีติสหัสสพราหมณกัญญาเถรีนมปทาน
และไม่เห็นภาคพื้นที่เป็นทางเดินลื่น ๆ
แม้ตลอดกาลทั้งปวง
[51] เมื่อหม่อมฉันยังครองเรือนอยู่
ชนทั้งหลายก็นำสักการะทุกอย่างที่เกิดขึ้นทุกฤดูกาลมาให้ทุกเมื่อ
เพราะผลแห่งบุพกรรมของหม่อมฉันทั้งหลาย
[52] หม่อมฉันทั้งหลายละการครองเรือนแล้ว
บวชเป็นบรรพชิต ข้ามทางสังสารวัฏได้แล้ว
บัดนี้ ภพใหม่ไม่มีอีก
[53] ทายกทายิกาหลายพันจากที่นั้น ๆ นำจีวร
บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร
มาถวายหม่อมฉันทั้งหลายตลอดเวลา
[54] กิเลสทั้งหลายหม่อมฉันทั้งหลายก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงหม่อมฉันทั้งหลายก็ถอนได้แล้ว
หม่อมฉันทั้งหลายตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[55] การที่หม่อมฉันทั้งหลายมาในสำนัก
ของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด เป็นการมาดีแล้วโดยแท้
วิชชา 3 หม่อมฉันทั้งหลายได้บรรลุแล้วโดยลำดับ
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หม่อมฉันทั้งหลายก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
[56] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 หม่อมฉันทั้งหลายก็ได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หม่อมฉันทั้งหลายก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ภิกษุณีบุตรีพราหมณ์ 84,000 รูปได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ เฉพาะ
พระพักตร์พระผู้มีพระภาค ด้วยประการฉะนี้
จตุราสีติสหัสสพราหมณกัญญาเถรีนมปทานที่ 2 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :526 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. ขัตติยกัญญาวรรค] 3. อุปปลทายิกาเถริยาปทาน
3. อุปปลทายิกาเถริยาปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอุปปลทายิกาเถรี
(พระอุปปลทายิกาเถรี เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[57] ในกรุงอรุณวดี มีกษัตริย์พระองค์หนึ่งพระนามว่าอรุณ
หม่อมฉันเป็นพระมเหสีของท้าวเธอ
ย่อมสนทนากันเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
[58] ครั้งนั้น หม่อมฉันนั่งอยู่ในที่สงัด คิดอย่างนี้ว่า
‘กุศลที่จะนำติดตัวไปซึ่งเราทำไว้ไม่มีเลย
[59] เราต้องตกนรกที่มีความเร่าร้อนมาก
ทั้งเผ็ดร้อนร้ายกาจแสนจะทารุณอย่างแน่นอน
เราไม่มีความสงสัยในข้อนี้เลย’
[60] ครั้นหม่อมฉันคิดอย่างนี้แล้ว
ทำจิตให้ร่าเริงเข้าเฝ้าพระราชาแล้ว กราบทูลดังนี้ว่า
[61] ‘ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นกษัตริย์
หม่อมฉันทั้งหลายชื่อว่าเป็นสตรี หม่อมฉันทั้งหลายไม่ใช่บุรุษ
ขอพระองค์ทรงพระราชทานพระสมณะ
แก่หม่อมฉันทั้งหลายสักองค์หนึ่งเถิด
หม่อมฉันทั้งหลายจักนิมนต์ท่านให้ฉัน”
[62] ครั้งนั้น พระราชาได้พระราชทานพระสมณะ
ผู้มีอินทรีย์อันอบรมแล้วให้หม่อมฉัน
หม่อมฉันรับบาตรของท่านมาแล้ว
ใส่ภัตตาหารอย่างประณีตจนเต็ม
[63] แล้วบรรจุอาหารอันประณีตของหอมและเครื่องลูบไล้
ไปพร้อมกัน มีใจยินดีได้ถวายให้ครองผ้าผืนใหญ่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :527 }